คนเราเมื่อถึงเวลาเติบโต เป็นผู้ใหญ่เรียนจบหางานทำได้และมีรายได้เป็นของตัวเองแล้ว ก็เรียกได้เต็มปากว่าสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ไม่ต้องรบกวนเงินทองของพ่อแม่อีกต่อไป คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนไทยที่เน้นเรื่องของความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดาเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว

เมื่อทำงานหาเงินได้ก็มักจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งของรายได้ให้กับพ่อแม่เพื่อตอบแทนในฐานะที่เป็นผู้มีพระคุณที่ส่งเสียเลี้ยงดูเรามา

มีเรื่องราวอยู่ว่า หลังจากเลิกเรียนค าบวิชาอาจารย์ผมก็เห็นอ าจารย์กำลังนั่งจดลิสต์รายการอย่ างเอาจริงเอาจังมาก ผมจึงได้เข้าไปถามอาจารย์กำลังทำอะไรอยู่หรอครับมีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ

อาจารย์เงยหน้ าขึ้นมามองแล้วก็ตอบว่า อ๋อผมกำลังจะลดร ายจ่ายอยู่เลยเขียนรายก ารดูว่ามีอะไร ที่พอจะตัดออกได้บ้าง เพราะตอนนี้ร ายจ่ายมันเริ่มเยอะกว่าร ายได้แล้วน่ะสิ

ในแผ่นกระดาษผมก็เหลือบไปเห็นร ายการ ที่อาจารย์เขียนไว้ทั้งค่าแม่ครัว คนขับรถคนสวนค่าใช้จ่ายในบ้านและให้แม่อีกเดือนละ 1000 บาท ผมค่อนข้างจะสนิทกับอาจารย์ จึงรู้ว่าแม่ของอ าจารย์อยู่บ้ านหลังเดียวกันผมจึงบอกไปว่า นี่ไงครับ เงินเดือนที่ให้แม่ 1,000 บาท

อาจารย์ก็ตัดออกได้นะครับเพราะคุณแม่ของอ าจารย์ก็อยู่กับอ าจารย์อยู่แล้วค่าใช้จ่ายทุกอย่ างอาจารย์ก็เป็นคนจ่าย ของใช้ทุกอย่ างอาจารย์ก็ซื้อให้ท่ านทุกเดือน คุณแม่ของอาจารย์ก็เดินไม่สะดวก ไม่ได้ออกไปไหนอยู่แล้ว ท่านคงไม่ได้ใช้เงินหรอกครับ

อาจารย์รีบพูดปฏิเสธขึ้นมาทันทีไม่ได้ อันนี้สำคัญมากตัดไม่ได้เพราะเป็นเงินไว้สำหรับหล่อเลี้ยงหัวใจแม่ ผมฟังก็ยังงงๆ จึงถามไปว่าเงินหล่อเลี้ยงหัวใจแม่คือยังไงหรอ ครับอาจารย์

อาจารย์ก็ได้อธิบายให้ฟัง ขนาดคนเราทุกคนก็ยังต้องการอ าหารเพื่อมาเลี้ยงร่างกายให้อิ่ม ให้มีเรี่ยวแรงในการทำงาน หัวใจคนเราก็ต้องการบางอย่ างเพื่อหล่อเลี้ยงหัวใจเหมือนกันนะ

ลองคิดดูสิ ถ้าหัวใจไม่มีอะไรม าหล่อเลี้ยง ก็จะแฟบ เหียวเฉาไม่สดชื่น แล้วก็จะทำให้ร่างก ายเราไม่มีแรงที่จะทำอะไรไปด้วยนะถึงแม่จะอยู่กับอาจารย์ก็จริง แต่ถ้าท่านไม่มีเงินอยู่ในมือ หัวใจท่านก็จะห่อเหี่ยว

เวลาเงินเดือนออกทุกคนก็ต่ างพากันยิ้มแย้ม เหมือนได้เติมพลังใช่ไหม แม่ก็ต้องก ารเงินเดือนเพื่อให้หัวใจพองโ ตเหมือนกันอาจารย์เล่าต่อว่า อย ากรู้ใช่ไหมว่า เงิน 1,000 บาท เลี้ยงหัวใจแม่อย่ างไร

ตอนอาจารย์พาภรรย าไปคลอดลูก คุณแม่ก็ได้ซื้อทองด้วยเงิน 1,000 บาท ที่เก็บสะสมไว้ มารับขวัญหลาน สวมสร้อยให้หลาน แล้วพอลูกอ าจารย์โตขึ้นรู้เรื่องสักหน่อย ถ้ามีคนมาถามว่าใครซื้อสร้อยให้ เขาก็จะบอกว่า คุณย่ าซื้อให้ และเพราะเงิน 1,000 บาท

นี่แหละที่ทำให้คนชร าคนหนึ่งดูน่าเกรงขาม ถ้าไม่มีเงิน 1,000 บาทแม่จะรับขวัญหลานได้อย่ างไร วันดีคืนดีมีกำนันมาที่บ้าน ขอรับบริจ าคเงินไปปรับปรุงห้องน้ำให้วัดในห มู่บ้าน

แม่อาจารย์ก็นับเงินออกมา 3,000 บาท บอกเอาไปใ ห้กำนันปรับปรุงห้องน้ำ และเงิน 1,000 บาท ที่เราให้นี่แหละที่เป็นบันไดพ าแม่ไปสวรรค์ถ้าแม่ไม่มีเงินในมือ แล้วแม่จะทำบุญอย่ างไร พอกำนันไปถามอีกบ้าน คุณลุงกำลังกวาดลานหน้ าบ้านอยู่ กำนันถามคุณลุงร่วมทำบุญ

คุณลุงตอบว่า ลุงไม่มีเงินหรอก อาศัยลูกสาวอยู่ ถ้าเขากลับมา เดี๋ยวจะขอเงินจากเข าไปสมทบทำบุญ เป็นเพราะลูกเข าไม่ได้ให้เงินเดือนลุงไว้ จะทำอะไรก็ไม่ได้ นี่แหละ เห็นอิทธิฤทธิ์ของเงิน 1,000 บาท ที่ให้แม่ทุกเดือนหรือยัง

เงินที่ช่วยหล่อเลี้ยงหัวใจแม่ไว้ จะให้มากให้น้อยไม่สำคัญ อยู่ที่ว่าเราได้ให้เงินเลี้ยงหัวใจแม่แล้วหรือยัง

สิ่งใดๆก็ตามที่เรามีความตั้งใจดีที่จะทำให้กับพ่อแม่ พ่อแม่ของเราย่อมต้องรู้สึกได้ ความภูมิใจที่เกิดจากความใส่ใจของเราที่มีต่อท่านนั้นมีคุณค่ามากมายมหาศาลกว่าจำนวนเงินหรือทรัพย์สินที่เรามอบให้กับท่านเสียอีก

ดังนั้นไม่ว่าเราจะให้เงินเดือนท่านเป็นรายเดือนหรือไม่ก็ตาม จำนวนเงินเดือนที่ให้ท่านจะมากหรือน้อย เงินทองที่ให้จะเป็นประจำสม่ำเสมอหรือไม่ก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ท่านต้องการก็คือ เวลาและความใส่ใจที่ลูกแต่ละคนมีต่อท่านที่มีค่ามากกว่าอะไรทั้งปวง

ขอขอบคุณที่มา รักยิ้ม

By adminVR