เปิดเบื้องหลัง Johnson & Johnson ยกเลิחขๅยแป้งเด็กที่ทำจากแร่ทัลก์ทั่วโลก หลังโดนฟ้องร้องยุ่งเหยิง จ่อยกเลิחการผลิตในปีหน้า หันมาใช้แป้งข้าวโพดแทน

ภาพจาก jarabee123 / Shutterstock.com

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2565 สำนักข่าวบีบีซี และเว็บไซต์ซีเอ็นบีซี รายงานว่า บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) จะดำเนินการหยุดการผลิตและจำหน่ายฝุ่นแป้งโรยตัวเด็กทั่วโลก ซึ่งเป็นชนิดที่ทำจากแร่ทัลก์ โดยเริ่มตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป นับเป็นเวลานานกว่า 2 ปี จากก่อนหน้านี้ที่ทางบริษัทได้ยุติการขๅยผลิตภัณฑ์นี้ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา

โดยในปี 2563 บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ได้ประกาศว่าจะหยุดขๅยแป้งเด็กจอห์นสัน ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา เนื่องจากความต้องการลดลง โดยบริษัทชี้ว่า เกิดจากความเข้าใจในข้อมูลที่ผิด เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ท่ามกลางวิกฤตความท้าทายทางกฎหมาย จากผู้ใช้ที่พากันยื่นเรื่องฟ้องร้อง

ตามรายงานเผยว่า ทางบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เผชิญกับการฟ้องร้องมากกว่าหลายหมื่นคดีจากผู้หญิงหลายราย (ประมาณ 38,000 คดี) ซึ่งได้กล่าวหาว่า แป้งจอห์นสันมีการปนเปื้อนของแร่ใยหิน อันส่งผลให้เกิดมะ เร็ଏรัଏไข่ ในขณะที่ทางบริษัทได้ยืนยันด้วยผลการวิจัยมากมายตลอดกว่าสิบปี ชี้ให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวปราศจากแร่ใยหิน และมีความปลอดภัยต่อการใช้งาน

อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดด้วยเหตุผลในเชิงพาณิชย์ ทางบริษัทได้ตัดสินใจที่จะยุติผลิตและจำหน่ายแป้งเด็กที่ทำจากแร่ทัลก์ (Talc) ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่พบได้ตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติในการช่วยดูดซับความชื้น เพื่อเปลี่ยนไปใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์แป้งเด็กที่ทำจากจากแป้งข้าวโพดทั้งหมด ซึ่งในขณะนี้เริ่มมีวางจำหน่ายแล้วในบางประเทศ

ในขณะเดียวกัน แม้จะมีจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ยังคงยืนยันว่า แป้งเด็กจอห์นสัน ที่ผลิตจากแร่ทัลก์ ปลอดภัยอยู่เสมอ

“จุดยืนในเรื่องความปลอดภัยของแป้งของเรา ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เรายืนหยัดมานานกว่าทศวรรษ ด้วยผลการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์อย่างเป็นอิสระ โดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ทั่วโลก ที่ยืนยันว่าแป้งเด็กของจอห์นสันส์ที่ผลิตจากแร่ทัลก์ ปลอดภัย ไม่มีแร่ใยหิน และไม่ก่อให้เกิดมะเร็ଏ” แถลงการณ์ของบริษัท ระบุ

สำหรับแป้งเด็กจอห์นสัน จัดจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2437 รวมเป็นเวลานานเกือบ 130 ปี และได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของบริษัท แสดงถึงภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรกับครอบครัว โดยถูกจัดวางเป็นสินค้าหลักในแผนกผลิตภัณฑ์สำหรับทารก

ขอบคุณข้อมูลจาก BBC, CNBC, Reuters

By adminVR