ผอ. กองสลาก ออกตรวจอีกครั้ง และยังยืนยันว่าไม่มีใครขายเกิน 80 แน่นอน
หลังจากวันที่ 29 ที่ผ่านมาผอ.กองสลากได้มีนโยบายกวดขันผู้ที่ขายลอตเตอรี่ที่มีราคาเกิน 80
บาทโดยการสุ่มลงพื้นที่ตรวจสอบทั่วกรุงเทพฯแต่ยังไม่พบร้านไหนเลยที่ขายเกินราคาจึงมั่นใจได้ว่าลอตเตอรี่ที่ออกจากกองสลากไม่มีร้านไหนที่ขายเกิน

80 บาทจริงๆ ทั้งนี้ที่ผ่านมาประชาชนส่วนใหญ่ร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมากว่าลอตเตอรี่ที่วางแผงขายอยู่ตามร้านทั่วไปขายใบละ
120 บ้างใบละ 100 บ้างทางด้านกองสลากเองก็ไม่เคยนิ่งนอนใจออกตรวจอยู่เป็นประจำและก็ทำการส่งตรวจอยู่เรื่อยๆซึ่งผลที่ผ่านมาหลังจากออกการออก ตรวจก็ไม่เคยพบลอตเตอรี่ขายเกิน 80 บาทเลยทำให้ทางกองสลากสบายใจและมั่นใจว่าประชาชนยังซื้อลอตเตอรี่ในราคานี้ได้อีกส่วนรางวัลนำจั บใครที่แ จ้ ง เบาะแสเกี่ยวกับการขายล็อตเตอรี่ที่เกินจริงอย่างเช่นจะได้

รางวัลแ จ้ งเบาะแส 1,000 บาทถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ที่นำจั บ และดำเนินคดีจะได้รางวัลในการดำเ นิ น ค ดี 2,000
บาทในส่วนของตรงนี้ยังพบว่ามีส่วนน้อยมากที่ขายเกินราคาจึงทำให้ประชาชนมั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีลอตเตอรี่ขายแพงเกินจริงอย่างแน่นอนสำหรับ
งวดที่จะออกนี้ก็ให้ประชาชนสมหวังดังความตั้งใจได้รางวัลที่ 1 กันทุกคนนะครับ

นอกจากนี้ พ.ท. หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

ได้กล่าวถึงปัญหาสลากเกินราคาในปัจจุบัน ซึ่งสำนักงานสลากฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีมาตรการและแนวทางเพื่อป้องกันและแก้ไขอย่างต่อเนื่อง สาเหตุของปัญหาสลากเกินราคาในขณะนี้ นอกจากความต้องการตัวเลขของผู้ซื้อสลากแล้ว จากสถานการณ์โควิดทำให้มีผู้สนใจหันมาประกอบอาชีพจำหน่ายสลากมากขึ้น ทำให้สลากในตลาดไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ขายซึ่งมีจำนวนมากขึ้น และส่วนใหญ่ไม่มีสลากของตัวเอง ต้องไปรับมาจำหน่ายอีกทอดหนึ่ง ทำให้ต้องขายสลากในราคาที่สูงขึ้น ประกอบกับมีช่องทางการจำหน่ายแบบใหม่ๆ ทำให้ปริมาณสลากเป็นที่ต้องการมากขึ้น คณะกรรมการสลากฯ จึงได้มอบหมายให้สำนักงานฯ หาแนวทางและมาตรการเพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว

ล่าสุด คณะกรรมการสลากฯ ได้มีมติกำหนดโรดแมปในการดำเนินการแก้ไขปัญหา ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว แนวทางประกอบด้วย

การขยายจุดจำหน่ายโครงการ ‘สลาก 80’

การเปิดรับสมัครลงทะเบียนในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 200,000 ราย

การจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์

พ.ท. หนุนกล่าวถึงรายละเอียดของ 3 แนวทาง เริ่มจากแนวทางแรก คือการขยายจุดจำหน่ายโครงการ ‘สลาก 80’ ไปทั่วประเทศ ทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้าง โดยเชิงลึก พิจารณาเพิ่มเขต/อำเภอละ 1 จุด จากรายชื่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกเป็นผู้ขึ้นบัญชีสำรองของแต่ละเขต/อำเภอแล้ว ส่วนในเชิงกว้าง คือให้เปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายรายเดิมส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 75 จังหวัด อำเภอละ 1-2 จุด รวมจำนวนไม่เกิน 1,000 จุด

สำหรับแนวทางที่สอง คือการเปิดรับสมัครลงทะเบียนในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 200,000 ราย โดยสมัครผ่านเว็บไซต์ หลังจากนั้นจะนำข้อมูลผู้สมัครมาคัดกรองคุณสมบัติ จากนั้นถ้ามีผู้สมัครเกินจำนวนจะใช้วิธีเรียงลำดับแบบสุ่ม หรือ Random Sort ทั้งส่วนกลางและรายจังหวัด คาดว่าจะสามารถได้รายชื่อผู้ลงทะเบียนและเริ่มทำรายการได้ตั้งแต่สลากงวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป

ส่วนของแนวทางที่ 3 เรื่องของการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น โดยที่ลักษณะของสลากยังคงเป็นสลากประเภทและรูปแบบเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงจากปัจจุบัน จึงสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและศึกษาผลกระทบทางสังคม

วิธีดำเนินการเริ่มจากตัวแทนจำหน่ายที่เข้าร่วมโครงการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม มอบสลากให้สำนักงานฯ นำเข้าระบบ โดยสำนักงานฯ เก็บสลากตัวจริงไว้เพื่อใช้เป็นเป็นหลักฐานในการรับเงินรางวัล ประชาชนที่ต้องการซื้อสลากในระบบนี้จะต้องลงทะเบียนผู้ซื้อก่อนและจ่ายเงินเข้าบัญชีตัวแทนจำหน่าย ข้อดีของระบบนี้คือ ระบบการสั่งซื้อจะถูกบันทึกและจัดเก็บไว้ สามารถตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายได้ และเมื่อถูกรางวัล ระบบจะแจ้งเตือนให้ติดต่อขอรับเงินรางวัล

ธนวรรธน์ กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า การแก้ปัญหาสลากเกินราคาต้องใช้หลายมาตรการประกอบกัน เนื่องจากปัญหาเกิดจากหลายสาเหตุ จากการกำหนดโรดแมปทั้ง 3 แนวทางในวันนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ขายสลากนอกระบบ และผู้จำหน่ายในส่วนของตลาดดอทคอมต่างๆ และจะทำให้ตลาดนี้ต้องขายในราคา 80 บาท

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาที่แบ่งเป็นแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวนั้น รูปแบบสลากใบยังคงมีจำหน่ายเหมือนเดิม แต่จะดูแลให้อยู่ในราคาใบละ 80 บาท

ส่วนรูปแบบขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์หรือผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งสำนักงานสลากฯ จะเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์เอง จะมีการพิจารณาสัดส่วนการจำหน่ายแบบใบและแบบผ่านแพลตฟอร์มให้มีความเหมาะสม

ทั้งนี้ ในส่วนของการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น แม้ว่าในเบื้องต้นสำนักงานฯ เห็นว่าสามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเป็นสลากแบบเดิมแต่เปลี่ยนช่องทางการจำหน่าย แต่อย่างไรก็ตาม สำนักงานฯ จะเริ่มดำเนินการภายหลังจากที่ได้รับความเห็นชอบในส่วนของขั้นตอนต่างๆ ตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว

ธนวรรธน์กล่าวในตอนท้ายว่า อย่างไรก็ตาม ปริมาณสลากปัจจุบันจำนวน 100 ล้านฉบับ ขณะนี้ถือว่าเป็นจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการของคนซื้อ และต้องยอมรับว่าช่องทางออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมของกลุ่มคนรุ่นใหม่ และขอยืนยันว่าผู้ค้าในระบบเดิมจะไม่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มผู้พิการจะมีการให้ความรู้ในการใช้งานระบบด้วย

 

By adminVR