หญ้าถือเป็นหนึ่งในของตกแต่งบ้านและสวน แต่การปลูกหญ้าก็ไม่ใช่เรื่องง่ าย เพราะหญ้าถือเป็นหนึ่งในของตกแต่งบ้านที่ดูแลย าก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่ฝนตกแดดออกไม่ตรงตามฤดูกาล ทำให้คนรักสวนหลาย ๆ มีปัญห ากับการดูแลหญ้าในบ้าน ทั้งเรื่องการดูแล และการตัดแต่ง
ฉนั้น สิ่งหนึ่งที่ต้องทำการบ้านให้ดีก็คือการรู้จักกับหญ้าที่ใช้ตกแต่งในรั้วบ้าน เพราะหญ้ามีหลายประเภท และหญ้าแต่ละประเภทก็มีลักษณะที่ไม่เหมือนกัน มีการดูแลรักษ าที่แตกต่างกัน ลองมารู้จักหญ้า 5 ชนิดที่นิยมปลูกในไทย ดังนี้
หญ้า 5 ประเภทที่นิยมใช้ปูสนาม คือ

1.หญ้าญี่ปุ่น
เป็นหญ้าที่นิยมนำมาจัดสวนญี่ปุ่น โดยแบ่งเป็น 2 ชนิด คือชนิดใบกว้าง และชนิดใบกลม ซึ่งจะมีใบเล็กและละเอียดกว่า และเป็นที่นิยมปลูกในประเทศไทยมาก
หญ้าชนิดนี้ต้องการน้ำมาก และเติบโตช้าต้องใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปีกว่าจะขึ้นเต็มสนาม หากไม่ได้น้ำใบจะเหลืองทันที แม้จะเป็นหญ้าที่โตช้า แต่เมื่อขึ้นแล้วจะหนาแน่นมากจนวัชพืช
ไม่สามารถขึ้นแข่งได้ ด้วยลักษณะใบมีสีเขียวเข้ม ใบเล็กละเอียด ปลายใบแข็งกระด้าง ขอบใบเรียบ ไม่มีขน จึงเหมาะสำหรับนำไปปลูกในสวนหย่อม และพื้นที่ไม่กว้างนัก
ข้อดี : เป็นชนิดขนาดเล็กมองดูแล้วสวยงามดี เหมาะสำหรับปลูกเป็นสวนหย่อม และพื้นที่ก็ควรไม่กว้างมากนัก และใช้ปลูกในบริเวณ ที่เป็นทางเข้าได้ดี เพราะสามารถป้องกัน และควบคุมไม่ให้บุกรุกบน ทางเท้า ได้ง่ายกว่าชนิดอื่น
ข้อด้อย : สัมผัสใบที่แข็งกระด้าง และปลายใบเล็กเรียวแหลม ทิ่มตำระคายผิวหนัง การตัดลำบากและกินแร งมา ก
2.หญ้านวลน้อย
หญ้าที่ชอบแสงแดดจัด ทนต่อการเหยียบย่ำได้ดี ไม่ต้องดูแลรักษ ามา ก รวมทั้งยังเป็นหญ้าที่นิยมปลูกกันมากเพราะสามารถขึ้นได้ดีในดินเกือบทุกชนิด ส่วนใหญ่จะนำหญ้าพันธุ์
นี้ไปปลูกเป็นสนามนั่งเล่น และสวนสาธารณะที่ต้องการความสวยงาม
ข้อดี : เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว สามารถปกคลุมหน้าดินได้ในระยะเวลาอันสั้น อีกทั้งทนต่อสภาพอากาศร้อนจัด แล้งจัดได้เป็นอย่างดี ให้สัมผัสที่อ่อนนุ่มยืดหยุ่นตัวสูง
ข้อด้อย : ตา ยง่าย หากเจอสภาพอากาศที่ร้อน แล้ง ไม่มีฝนตก ทำให้สายพันธุ์นวลน้อยขาดน้ำนานมากกว่า 1 เดือน จะทำให้ชนิดนี้จะเหี่ยวแห้ง และตา ยง่ายมาก ดังนั้น จึงต้องรดน้ำต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 1 ครั้ง / อาทิตย์ เพื่อป้องกันต้นเหี่ยวตา ย และเติบโตเร็ว ทำให้ต้องมีการตัดเล็มบ่อยครั้ง
3.หญ้ามาเลเซีย
หากต้องการปลูกหญ้าในที่ร่ม ควรเลือกหญ้ามาเลเซียมาปลูก เพราะหญ้ามาเลเซียชอบอยู่ในที่ร่มชื้น และไม่ต้องเอาใจใส่มากนัก เพราะไม่ต้องตัดบ่อย
จึงเหมาะสำหรับ ผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแล หญ้ามาเลเซียเป็นหญ้าที่ชอบน้ำ หญ้ามาเลเซียใบใหญ่ สีเขียวเข้มเหมาะสำหรับปูสนามและจัดสวนได้ดีพอๆ กับหญ้าชนิดอื่น
ข้อดี : ราคาประหยัด หาซื้อง่าย ดูแลรักษาง่าย ทนสภาพอากาศร้อนจัด ทนต่อสภาพน้ำขังได้ตลอดทั้งวัน โดยที่รากไม่เน่าเสี ยเพราะเป็นพืชที่ชอบความชื้น ใบหนาสามารถปกคลุมหน้าดินได้เขียวขจี คนส่วนใหญ่จึงเรียกพันธุ์นี้กันว่า “หญ้าไม่มีวันตา ย” เพราะมีอายุยืน และสามารถแตกแขนงรากและกอใหม่ได้เรื่อย ๆ อย่างไม่สิ้นสุด
ข้อด้อย : ไม่ทนต่อการเหยียบย่ำเนื่องจากใบอวบน้ำและเปราะ ใช้นั่งเล่นก็จะทำให้ก้นเปียกน้ำได้ ต้องมีการตัดแต่งบ่อย เนื่องจากเป็นพืชที่ชอบความชุ่มชื้นมาก จึงทำให้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มีลำต้นที่สูงและยาวขึ้นภายใน 7 – 15 วัน และต้องรดน้ำปริมาณมากมากในแต่ละวัน อาจทำให้การใช้น้ำสิ้นเปลืองมากขึ้น
4.หญ้าเบอร์มิวด้า
มีลักษณะใบละเอียด นิ่ม และทนต่อการเหยียบย่ำ รวมทั้งยังฟื้นตัวได้ดี หญ้าชนิดนี้ทนต่อความร้อน และความแห้งแล้งได้เป็นเวลานานๆ รวมทั้งหากน้ำท่วมหญ้าชนิดนี้ก็สามารถอยู่ได้
หญ้าเบอร์มิวด้ามีใบสวยงาม เหมาะแก่การทำสนามกอล์ฟ และสวนสาธารณะ แต่ไม่นิยมนำมาทำสนามฟุตบอล
ข้อดี : ขึ้นง่าย ทนต่อความแห้งแล้ง ทนต่อการเหยียบย่ำฟื้นตัวและแพร่พันธุ์เร็วมาก มีคุณสมบัติเป็นสมุนไพร
ข้อด้อย : ต้องมีการตัดแต่งอยู่สม่ำเสมอหากทิ้งไว้จะขึ้นสูงรกชัด
5.หญ้าไทเป
สำหรับคนอยากมีสนามหญ้าแต่ไม่ต้องการตัดบ่อยครั้ง อีกทั้งการดูแลรักษาก็ไม่ยุ่งยากเพียงแค่ใจเย็นรอให้เแตกกอก็พอ ตัวสายพันธุ์ไทเปนั้น ใบสั้น แต่เมื่อขยายแล้วจะแน่น กว่าชนิดอื่น ลำต้นจะเลื้อยใต้ดิน จะโผล่ขึ้นมาแค่ใบ สายพันธุ์ไทเปปลูกแล้วแทบไม่ต้องตัดเลย สามารถขึ้นได้ดีในดินเกือบทุกชนิด ยกเว้นดินเปรี้ยว/ดินเค็ม
ข้อดี : มีรูปทรงสวยเตะตามีเอกลักษณ์ มีความเตี้ยสม่ำเสมอ ปลูกแล้วไม่ต้องตัด ประหยัดเงินและแรงงานได้มากมาย
ข้อด้อย : ราคาค่อนข้างสูงกว่าพันธุ์อื่นๆ หาซื้อได้ยากกว่า
วิธีการปลูกหญ้าเบื้องต้น
ทั้งนี้ นอกจากประเภทของหญ้าที่ต้องรู้แล้ว เรื่องของการปลูกหญ้า การเตรียมดินก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะปลูกหญ้าเช่นกัน โดยมีวิธีการเบื้องต้นดังนี้
1. ก่อนการปูหญ้านั้นจะต้องปรับสภาพพื้นดินให้เรียบร้อยแล้วแต่ดีไซน์และพื้นที่ใช้สอย บางคนมีการทำเป็นเนินโค้งสวยงาม บางคนก็มีการแต่งหน้าดินให้มีพื้นที่แทรกแซงของดอกไม้
2. เมื่อเตรียมหน้าดินเสร็จก็จำเป็นต้องเพิ่มสารอาหารให้กับดินด้วยโดยการโรยทรายขี้เป็ดหรือดินขุยไผ่แล้วรดน้ำให้ทั่วจนดินชุ่มชื่น
เพียงเท่านี้ก็จะปลูกหญ้าทุกชนิดได้อย่างสวยงาม ที่สำคัญอย่าลืมดูแลรักษาต้นไม้ใบหญ้าในบ้านด้วยการตัด ตก แต่ง และรดน้ำเป็นประจำ
ขอบคุณข้อมูล www.condonewb.com, www.sanook.com, www.ddproperty.com