หลายคนทราบกันดีว่า ได๋ ไดอาน่า และ จ๊ะ นงผณี เปิดเพจ เราต้องรอด เพื่อช่วยเหลือผู้ติดโควิ ดที่ไม่มีเ ตียง ให้ต้องถึงมือหมอเร็วที่สุด
รวมเงินกันซื้อรถฉุกเฉิน ราคา 5 แสน ซื้อมา 3 คัน ถ้ากับคนอื่นได๋เต็มที่ อันนี้ชีวิตคน เราต้องช่วย ของมี คนมี แต่รถไม่มี มันเป็นอุปส ร รค
และถ้าเงินมันแก้ปัญหาตรงนี้ได้ก็เอาเงินแก้ แล้วค่อยไปหาเอาข้างหน้าใหม่ก็ได้
โดย ได๋-ไดอาน่า จงจินตนาการ เล่าว่าอยากช่วยเหลือสังคม ด้วยการจับมือกับนักร้องสาวเพื่อนสนิท จ๊ะ-นงผณี เปิดเพจ #เราต้องรอด
ให้ความช่วยเหลือผู้ติ ดเ ชื้อโควิด
เกิดจากที่ว่างงาน “นอนอย่างเดียวเลยค่ะ นอนจนเราจำไม่ได้แล้วว่าเราว่างงานมานานแค่ไหนแล้ว ถ้าคำนวณจริงๆก็น่าจะเกินครึ่งปีได้ค่ะ
ตอนนั้นบอกเลยว่าเราทำงานพิธีกร ไมโครโฟนคืออวัยวะประจำตัวเราเลย แต่ตอนนี้คือไม่ได้จับไมค์มานานมากๆ”
เริ่มต้นจากการที่เราเป็นคนที่ติดตามข่าวสารตลอดเวลา ดูว่าแต่ละประเทศเขาเป็นยังไงบ้างก็เห็นหลายๆประเทศล็อกดาวน์แล้ว ตอนนั้นปลายๆ สองเข้าระลอกที่สาม
แล้วทำไมหลายๆประเทศมีการฉีดวัคซีนและมีการควบคุมอย่างดีแล้วแต่ทำไมยังเกิดอีก
เราก็ภาวนานะคะว่าอย่าเกิดขึ้นในประเทศไทยนะ ตอนนั้นเราก็ได้คุยกับจ๊ะว่าเราต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อช่วยคนที่เป็นโควิด
ตอนนั้นระลอกที่สามยังมาไม่หนักนะคะ แล้วก็มีเคสหนึ่งส่งเข้ามาหา จ๊ะก็เลยมาปรึกษา เราก็ช่วยประสานโรงพยาบาลหาเ ตียงให้
พอเราทำสำเร็จ จ๊ะก็นำไปลงว่าเราประสานช่วยได้สำเร็จแล้วหนึ่งราย แค่นั้นแหละคนก็ DM เข้ามาหาทั้งเราสองคนเยอะมาก
เราก็คุยกันในกรุ๊ปซึ่งจะมีอยู่สี่คนคือ ได๋ จ๊ะ พี่สาวจ๊ะ และผู้ช่วยได๋
ซึ่งเราก็ตั้งชื่อกลุ่มของเราว่าเราต้องรอด เราก็เลยเอามาตั้งชื่อเพจขึ้นมาว่า เราต้องรอดด้วยเลยค่ะ ที่มาที่ไปก็แบบนี้”
“2 วันแรกมีเข้ามา 30 เคสเลยซึ่งมันเยอะมากเลยนะคะ คือเราช่วยมาสองวันเต็มๆแล้วและวันที่สามเราต้องมาถ่ายรายการ เราก็ห่วงว่าถ้าช่วงนั้นมีคนขอความช่วยเหลือมาเขายังไง
โชคดีที่ว่าคุณนิหน่า ทักมาบอกว่ามีอะไรให้ช่วยบอกนะเราก็บอกไปเลยทันทีว่ามี ฉันตั้งเธอเป็นแอดมินนะ พี่นิหน่าคือน่ารักมากก็ตอบตกลงเลยว่าได้
หลังจากนั้นเขาก็ไปหาคนมาเพิ่มเพื่อช่วยเหลือเราประมาณ 10 กว่าคน เราก็ได้มีการ ประชุมแบ่งงานกันเลย เราก็อยากทำให้ official มากขึ้นก็เลยตั้งเป็นไลน์แอทขึ้นมา
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเร็วมากแต่เราก็ต้องทำทุกอย่างให้เป็นระบบมากที่สุด แล้วจิ๊กซอว์สุดท้ายเราได้รับการติดต่อจากน้องๆ EMT จุฬาฯเป็นหน่วยฉุ กเ ฉิน
ซึ่งน้องๆกลุ่มนี้เขาจะมีเครื่องผลิตออกซิเจนแล้วก็สามารถที่จะไปประเมินหน้างานให้เราได้ ว่าต้องโทร.หา 1669 หรือยัง ถ้าเคสยังรอได้เราก็จะให้ติดต่อ 1330 หรือ 1668 ไปก่อน
ซึ่งทุกวันนี้ คือ คนที่ Inbox เข้ามาเราก็จะมีรายละเอียดให้กรอกก่อนส่งเคสไปที่ LINE Official Account ของเรา ในนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยประสานงานต่อ มีประกันไหม
ถ้ามีประกันเราจะได้ประสานไปที่ดูแลเราโดยตรง หรือหน่วยงานของคุณ แล้วก็จะมีอีกทีมที่เราจะคอยมิตเตอร์อาการของเคสต่างๆว่าเขาเป็นยังไงบ้าง
เราก็จะมีทีม EMT ที่เคยดูแลประเมินให้ที่หน้างานว่าเป็นยังไงบ้าง ก็จะให้ยาสามัญประจำบ้านหรือเครื่องวัดออกซิเจนไว้ให้
เมื่อถึงเวลาที่เขาได้รับตัวไปแล้วเราค่อยไปรับของคืนแล้วก็ทำความสะอาดบ้านให้เขา”
ซึ่งทุกอย่าง “จ่ายเองค่ะ ช่วงแรกก็จะเป็น จ๊ะกับได๋ค่ะ เราไม่ได้เปิดรับบริจาค
เพราะเราเห็นมาตลอดว่าในการช่วยเหลือแบบนี้ถ้ามีเงินเข้ามาเยอะๆมันจะมีดราม่าเกิดขึ้น
เพราะฉะนั้นเราคิดว่าเราตัดดราม่าออกไปเลยแล้วกัน
อะไรที่เราสามารถช่วยได้เราออกเองได้เราก็ออกไปกันเองก่อน แล้วพอคนมารู้จักเพจเรามากยิ่งขึ้นก็จะมีเพื่อนๆเข้ามาทักว่ามีอะไรให้ช่วยไหม
เราก็จะคิดก่อน เช่น อาสาสมัครของเราเขาใช้เงินของตัวเองเช่าห้องพักนอนมาหนึ่งเดือนเต็มๆ
ซึ่งเราก็คิดว่าเขามาช่วยเราทำงานเราก็เลยช่วยหาที่พักให้เขา ตอนแรกเราก็จ่ายเอง แล้วก็มีเพื่อนๆยื่นมือมาช่วย”
เพจ เราต้องรอด ไม่เปิดรับการบริจาคเลย
“ไม่รับเงินในการบริจ าคเลยค่ะ แต่เรารับเป็นสิ่งของซึ่งเราก็จะเปิดประกาศบอกเป็นระยะๆว่าตอนนี้ PPE ไซส์ L หมดนะคะ
ส่วนคุณนิหน่าเขาก็จะมีสถานที่ให้เราได้เก็บของที่ได้รับบริจ าคมา
ซึ่งไม่ว่านำของอะไรออกไปใช้ก็ต้องมีการเซ็นเบิกออกไปว่านำไปใช้อะไรที่ไหนอย่างไร
ก็ยังมีคุณอาร์ต-พศุตม์ ด้วย เพราะเนื่องจากอาสาสมัครของเราที่ทำงานคือมีหลายเขต หลายที่มากๆ
บางทีคนที่ขอความช่วยเหลือมาเราก็จะกระจายของแบ่งไปให้กับเหล่าอาสาสมัครที่อยู่ในเขตนั้นๆ”
ตั้งแต่ที่ทำมาเคสเยอะที่สุด “300 ค่ะ เพราะมาจากแคมป์คนงานก่อสร้าง ซึ่งเราก็โชคดีที่มีหลายหน่วยงานติดต่อเข้ามาว่าถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือก็แจ้งเขามาได้เลย
เราโชคดีมากที่การทำงานนี้เราได้รับความช่วยเหลือจากทุกคนทุกฝ่าย”
ขอบคุณ ข้อมูลไทยรัฐ
เรียงเรียงโดย VRThaiNews