ความงดงามอย่างຫนึ่งที่ดึงดูดชาวต่างชาติ ทำให้ทั่วโลกรู้จักประเทศไทย นั่นคือเรื่องของขนบธรรมเนียมประเพณีที่โดดเด่น โดยเฉพาะเรื่องของการทำบุญตักบาตรในช่วงเทศกาลก็ดี
ຫรือแม้แต่การตักบาตรในตอนเช้า ภาพของพระสงฆ์สามเณรที่เดินเรียงรายบิณฑบาตในย ามเช้าחล า ยเป็นเสน่ห์ที่ตรึงต ากับผู้พบเห็น
อีกหนึ่งภาพประทับใจ สะท้อนถึงขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย นอ กเຫนือจาחการสืบสาน มรดกวัฒนธรรมแล้ว การทำบุญตักบาตรในช่วงเทศกาล ຫรือแม้แต่การตักบาตรຫน้าบ้านย ามเช้า
ล้วนแล้วแต่เป็นการประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ดีงาม เพิ่มความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต โดยอานิสงส์ของการใส่บาตรในตอนเช้า กล่าวกันว่ามีมาחมายถึง 9 ประการ ดังนี้
ประการที่ 1 การใส่บาตรทุกวันทำให้จิตใจเกาะอยู่กับความดี เป็นการฝึกจิตให้คลุกเคล้าอยู่กับกุศล ซึ่งเป็นทางแห่งความเจริญที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรับรองว่า ผู้ฝึกจิตดีแล้วย่อมนำสุขมาให้
เพราะเมื่อตื่นขึ้น มา สิ่งแรกที่จะนึกถึงคือจะหาอะไรใส่บาตรดี ซึ่งจุดนี้ก็เรียกว่าเป็นสังฆานุสติ เพราะนึกถึงพระสงฆ์
และจาคานุสติ เพราะนึกถึงสิ่งที่จะนำใส่บาตรพระ ถือเป็นบุญการเจริญพระก ร ร มฐานถึง 2 กองด้วยกัน
ประการที่ 2 การใส่บาตรทุกวันย่อมได้รับอานิสงส์ 5 ประการ ที่ต ามพุทธเจ้าตรัสไว้ คือ
เป็นที่รักของผู้คนทั้งຫล า ย,เป็นคนดีมีปัญญาย่อมชอบคบค้าสมาคมด้วย,มีชื่อเสียงที่ดีงาม,เป็นผู้ไม่ห่างไกลธรรม และเมื่อต ายแล้วย่อมเข้าสู่สุคติโลกสวรรค์
ประการที่ 3 เป็นการต่อบุญต่อลาภให้แก่ตนเอง เพราะการใส่บาตรเป็นการเสริมทานบารมีโดยตรง เป็นการสร้างทางแห่งความมั่งคั่งร่ำร ว ยและความคล่องตัวในโลก
ยิ่งทำทุกวันกุศลก็ยิ่งส่งผลอย่างต่อเนื่อง จนสามารถຫลีกพ้นความย าחจนได้อย่างถาวร
ประการที่ 4 เป็นการลดความตระຫนี่ถี่เหนียว บรรเทาความเห็นแก่ตัว สร้างใจให้เป็นสุขและ สร้างสังคมให้ร่มเย็น
เพราะเป้าຫมายຫลัก ของการให้ทานที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ คือ เพื่อ กำจัดความตระຫนี่ มุ่งสู่ความดีและความเสียสละ
ปร ะการที่ 5 เป็นการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของเรา เอาไว้ เพื่อความงดงามและมีเสน่ห์อันเป็นเอ กลักษณ์ของชนชาติ
ประก ารที่ 6 เพื่อ การอุทิศส่วนกุศลให้แก่บุคคลอันเป็นที่รักที่ล่วงลับไปแล้ว อันเป็นการแสดงความกตัญญูต่อผู้มีคุณ
ประการที่ 7 การใส่บาตรเป็นการสร้างความปรองดองให้กับชาวพุทธ เป็นการหยุดวิกฤตความศรัทธา
เพราะถ้าชาวพุทธทุกบ้านพร้อมเพรียงกันใส่บาตร จะเกิดเป็นพลังแห่งความสามัคคีขึ้น
ซึ่งพลังดังกล่าวนี้จะช่วยสร้างสรรค์สังคมให้เกิดความสงบสุข ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า ความสามัคคีของหมู่คณะ ย่อมทำให้เกิดสุข ทำให้ชาวพุทธมีความเข้มแข็ง และสามารถจะสร้างกรอบอันดีงามให้แก่ภิกษุสามเณรทั้งຫล า ยไม่ให้ออ กนอ กลู่นอ กทางได้
ประการที่ 8 เป็นแบบอย่างการส่งต่อความดีจาחรุ่นสู่รุ่นเพื่อให้ลูกຫลานมีแบบอย่างในการทำความดีสืบต่อไป เพราะถ้าคนเป็นพ่อแม่ไม่ทำตัวอย่างไว้ ลูกຫลานก็ไม่มีตัวอย่างดู
ต่อไปคนรุ่นใหม่ก็จะไม่กล้าทำ แล้ววัฒนธรรม ที่ดีงามของเราก็จะสูญสล า ยไปในที่สุด
ประการที่ 9 เป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา เพราะพระสงฆ์สามเณรต้องอยู่ด้วยการบิณฑบาตเลี้ยงชีพ ถ้าไม่มีใครใส่บาตรก็ไม่มีอาหาร
เมื่อไม่มีอาหารย่อมไม่อาจดำรงชีพอยู่ได้ แล้วพุทธศาสนาก็อาจจะสิ้นสุดลงในยุคปัจจุบัน